สุทรียศาสตร์แห่งความงามอาจเป็นเรื่องที่น่าหลงใหล แต่จะเกิดอะไรขึ้นหากหัตถการเหล่านั้นกลับเผยด้านมืดออกมา เมื่อคุณล้ำเส้นความ ‘พอดี’ จนกลายเป็นเสพติด พร้อมพารู้จักความเสี่ยงที่เกิดจากการทำโปรแกรมฟิลเลอร์อย่างภาวะ ‘Overfill Syndrom’ ที่เกิดได้ทั้งจากการเติมฟิลเลอร์ซ้ำ ๆ หน้าล้น เพราะรู้สึกไม่เต็ม และอาจเกิดจากการตกเป็นทาสการตลาดของคลินิกไร้จรรยาบรรณ หวังขายเพื่อดันยอดซื้อจนลืมคำนึงถึงการประเมินความเหมาะสม หากคุณเป็นหนึ่งคนที่เคยประสบปัญหาเหล่านี้ ต้องห้ามกดออกอย่างเด็ดขาด!
Overfill Syndrome หายนะจากความสวยที่เกินพอดี
กลุ่มอาการ Overfill Syndrome หมายถึง ภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อฉีดฟิลเลอร์เติมเต็มในปริมาณที่มากเกินไปจนทำให้เกิดอาการหน้าล้น ผิดรูป และอีกหลาย ๆ ปัญหา เพราะถึงแม้ว่าสารเติมเต็มไฮยาลูรอนิกหรือ ‘ฟิลเลอร์’ จะเป็นเป็นสารเครื่องสำอางที่ใช้กันทั่วไปในแวดวงของการทำหัตถการเพื่อคืนความงาม ความอ่อนเยาว์ พร้อมปรับรูปหน้าและริ้วรอยให้เรียบขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อใช้สารเติมเต็มเหล่านี้มากเกินไปหรือใช้อย่างไม่เหมาะสม ก็อาจจะนำไปสู่ลักษณะที่ไม่สมดุลและไม่เป็นธรรมชาติได้
ความเสี่ยงจากอาการ Overfill Syndrome
- เสี่ยงเป็นก้อน ดูไม่เป็นธรรมชาติ
- ลักษณะใบหน้าไม่สมส่วน บิดเบือนความสมดุล ทำให้ไม่กลมกลืนไปตามธรรมชาติ
- ผลที่ตามมาในระยะยาวอาจรวมถึงเนื้อสัมผัสและความยืดหยุ่นของผิวหนังที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งส่งผลให้ใบหน้าดูมีอายุ ไม่อ่อนเยาว์
- อาจเกิดผลกระทบทางจิตใจ เช่น ปัญหาการเห็นคุณค่าในตนเองและภาพลักษณ์ทางกายในแง่ลบ
แนวทางการรักษาและรับมือ Overfill Syndrome
สำหรับใครที่รู้สึกตัวแล้วว่าใบหน้าของตัวเองกำลังเข้าสู่อาการ Overfill Syndrome คือดูล้น ยิ้มแล้วฟิลเลอร์ขึ้นเป็นก้อน ไม่สมส่วน ดูหน้าบวม สามารถติดต่อกับแพทย์เจ้าของเคสเพื่อการทำปรึกษา และหาแนวทางแก้ไข โดยใช้ยาสลายฟิลเลอร์เพื่อลดปริมาตรของสารเติมเต็มลงให้สมดุล อย่างไรก็ตาม การป้องกันเอาไว้ก่อนก็ย่อมดีกว่ามาแก้ไข ฉะนั้น การเริ่มต้นตั้งแต่ขั้นตอนเลือกคลินิกและแพทย์จึงสำคัญมาก เพราะถ้าทั้งคู่มีจรรยาบรรณ มีประสบการณ์ ก็จะช่วยให้คำปรึกษาพร้อมประเมินใบหน้าได้อย่างเหมาะสม ไร้ปัญหาการยัดเยียดโปรแกรม รวมถึงการช่วยยับยั้งช่างใจ ไม่ให้เติมจนดูไม่เป็นธรรมชาติได้นั่นเอง
…